วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

งานกฐินที่อาศรมธรรมทายาท

อุทกภัยปีนี้รุนแรงมาก แต่เราคนไทยไม่เคยทิ้งกัน ยิ่งทำให้เราใกล้ธรรมะมากขึ้นไปอีก เราชาวอาศรมธรรมทายาทขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านมีสติ จงอย่าสิ้นหวัง เราทั้งชาติจะฟันฝ่าไปด้วยกัน เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 54 หลวงตาแชร์พร้อมด้วยคณะสงฆ์ในจังหวัดนครราชสีมา ได้ไปเยี่ยมปลอบขวัญโยมผู้ประสบภัยที่คลอง 1 ด้วยเช่นกัน
เมื่อกลับถึงโคราช ท่านก็รีบไปเยี่ยมโยมแม่มาลัย ที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสีคิ้ว นครราชสีมา ซึ่งขณะนี้ท่านได้หายป่วยแล้ว วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 54 ที่ผ่านมา ชาวสีคิ้วได้นำกฐินมาทอดถวาย ณ อาศรมธรรมทายาท เพื่อสร้างศาลาฉันท์อาหารและโรงครัว (ดังภาพข้างล่าง) มียอดถวายทั้งสิ้น 143,588 บาท (หนึ่งแสนสี่หมื่นสามพันห้าร้อยแปดสิบแปดบาทถ้วน) สาธุ........ จากนั้นท่านก็แจกยาดมคนละขวด เป็นผลิตภัณฑ์ของชุมชนอาศรมธรรมทายาท เมื่อเสร็จสิ้นพิธีถวายองค์กฐิน ผู้เขียนก็ได้ไปเก็บภาพจากศูนย์เรียนรู้ตามจุดต่างๆภายในบริเวณอาศรมมาฝากค่ะ ข้าวกำลังออกรวงสวยงามมากค่ะ คติธรรมที่พบเห็นได้ทั่วไป ตั้งนะโม 3 จบ " โอม..บุญข้าอยู่ที่ใด ขอจงมารวมตัวกัน จงสำเร็จแด่เทวดาผู้คุ้มครองตัวข้า บิดามารดา สามีและบุตรของข้า ญาติพี่น้องของข้า ขอจงเทวดาผู้คุ้มครองเจ้ากรรมนายเวรของข้า มารับเอาส่วนบุญส่วนกุศลนี้ด้วยเทอญ"










































































































































































































































































































































วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2554

วันครอบครัว 14 เมษายน 2554

วันสงกรานต์ที่ผ่านมาหลวงตาแชร์ท่านบวชให้แก่สามเณรจำนวน 11 รูป เพื่อให้ศึกษาพระธรรมวินัย และเรียนรู้หลักการดำรงชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ท่านอบรมบ่มนิสัยให้รัก และเคารพบุพการี ให้มีกตัญญู รู้คุณคน มีความซื่อสัตย์สุจริต ตั้งใจเรียน ขยัน อดทน รักการทำงาน ไม่อายทำกิน สามเณรที่ปฏิบัติได้ก็จะได้รับรางวัลด้วย สำหรับโยมในตระกูลทับเพ็ชรแล้ว ท่านเป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจ เป็นตัวอย่างของลูกที่แสดงความกตัญญูบิดามารดา ห่วงใยมารดา และเทิดทูนโยมพ่อเสมอมา ดังที่ท่านกล่าวเสมอว่าโยมพ่อหาที่ทางให้ลูกได้มาอยู่รวมกัน ไม่ว่าจะมีทุกข์หรือสุข เราก็ไม่เคยทิ้งกัน ร้านอาหาร "ครัวแม่มาลัยปลาเผา-เข่าเลยลูก" ท่านบอกว่าเป็นการทำงานระบบสหกรณ์ มีการระดมทุน ระดมแรง ใครทำงานก็ได้ค่าตอบแทน ท่านสอนว่าอย่ารับเงินจากผู้อื่นโดยไม่ได้ทำสิ่งใดทดแทน เราจะเสียเกียรติ จากนั้นเราก็ทำพิธีสรงน้ำพระพุทธรูปและพระภิกษุสามเณร และท่านยังได้ร่วมแสดงความยินดีกับหลานชายหลานสาวทั้งสามคนที่จบการศึกษาและได้ทำงานกันทุกคน เมื่อว่างเว้นจากงานหลานๆ ก็ยังได้มาช่วยงานที่ร้านแทนการไปเที่ยวเตร่ที่อื่น นับเป็นอุบายที่แยบยลของพ่อแม่ที่ได้สร้างงานไว้ให้ลูกๆได้ทำ